วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บทที่6 การสื่อสารโทรคมนาคม และเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เรื่องที่1 บทบาทของอินทราเน็ต


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บทบาทของอินทราเน็ต

อินทราเน็ต (Intranet) คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงการสื่อสารด้วยระบบโปรโตคอลทีซีพี/ไอพี(TCP/IP) ซึ่งเป็นระบบโปรโตคอลในการสื่อสารของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ดังนั้น โปรแกรมเพื่อการสื่อสารบนเครือข่ายอินทราเน็ตจึงเป็นซอฟต์แวร์ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างเครือข่ายอินทราเน็ตกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมทั้งโลก อินเทอร์เน็ตไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง และไม่มีใครสามารถควบคุมเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ แต่สำหรับเครือข่ายอินทราเน็ตมีเจ้าของแน่นอน และถูกควบคุมโดยองค์กรหรือบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
อินทราเน็ตเกิดจากความคิดของระบบอินเทอร์เน็ตในการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลากหลายชนิดจากทุกมุมโลกเข้าด้วยกันได้ รวมทั้งการที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลจากที่ต่าง ๆ การมีบริการที่เป็นประโยชน์และความสามารถในการแสดงผลได้ตามต้องการแบบ 4ท (ที่เดียวทั่วโลก ทันที ทุกเวลา) นี้เอง ทำให้เกิดแนวคิดในการนำเทคโนโลยีของระบบดังกล่าวมาใช้งานในหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งเมื่อย่อระบบอินเตอร์เน็ตลงมาในองค์กรก็เป็นระบบอินทราเน็ตนั่นเอง ดังนั้นอินทราเน็ตต้องมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
การประยุกต์ใช้อินทราเน็ตถือเป็นการปฎิรูประบบงานในองค์กรใหม่และก่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการและขั้นตอนการทำงานในปัจจุบันและอนาคต ในปัจจุบันได้มีผู้ให้คำจำกัดความของอินทราเน็ตไว้ต่าง ๆ ดังนี้
– อินทราเน็ตเป็นระบบเครือข่ายภายในที่เชื่อมโยงเครือข่ายย่อยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และให้ทุกคนในองค์กรใช้ร่วมกัน
– อินทราเน็ต เป็นรูปแบบของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในองค์กร
– อินทราเน็ต เป็นคำที่สื่อความหมายถึงการนำเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ เพื่อตอบสนองระบบงานภายในองค์กรโดยเฉพาะ
– อินทราเน็ตเป็นระบบอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานเฉพาะในองค์กร
– อินทราเน็ต เป็นการนำเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ ในองค์กรหรือหน่วยงาน
– อินทราเน็ต เป็นการรวมสารสนเทศที่มีอยู่ โดยวิธีการปรับปรุงให้เข้าถึงและกระจายข้อมูลผ่านไอพี เครือข่ายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวก ปรับปรุงวิธีการเข้าถึงสารสนเทศ การกระจายใช้สารสนเทศ และการบริหารสารสนเทศ
– อินทราเน็ต เป็นการนำเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ต ที่ได้รับการยอมรับและเป็นมาตรฐานในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าด้วยกัน มาประยุกต์ใช้ในองค์กร หรือหน่วยงาน
จากนานาทัศนะดังกล่าวข้างต้น สามารถจำกัดความได้ว่าอินทราเน็ต เป็นระบบเครือข่ายภายใน
ที่นำเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้งานภายในองค์กร โดยการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายย่อยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และนำมาใช้เพื่อตอบสนองระบบงานภายในองค์กรโดยเฉพาะและให้ทุกคนในองค์กรใช้ร่วมกัน อินทราเน็ตจึงถือว่าเป็น Corparate Portal หรือเว็บท่าองค์กร เป็นที่ที่ทุกคนต้องมาใช้เพื่อทำงานตามหน้าที่
e-company
อี-คอมพานี (e-company) หมายถึง องค์กรที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกรรมจากระบบเดิม ซึ่งใช้เอกสารในการประสานงานกัน มาเป็นระบบที่ใช้เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยประยุกต์เทคโนโลยีในปัจจุบัน ปรับให้เข้ากับการดำเนินธุรกิจของแต่ละองค์กร ซึ่งจะทำให้การประสานงานกันทั้งภายในองค์กรเองและต่างองค์กรมีความสะดวกรวดเร็ว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งและทำให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนยิ่งขึ้น
ปัจจุบันธุรกิจแบบเดิมที่เราคุ้นเคยกำลังหมดยุคไปทุกวันนี้การแข่งขันในตลาดโลกเริ่มรุนแรงขึ้น ไอที มีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นบุคลากรด้านไอทีที่มีความสามารถ รวมถึงการติดต่อสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีต่อกันระหว่าง ลูกค้าและซัพพลายเออร์ คุณภาพของการบริการจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีต่อการเจริญเติบโตของบริษัทฯ ต่างจากในอดีตที่เป็นเพียงส่วนเสริมของการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เท่านั้น
อี-คอมพานี เป็นการรวมเอาการดำเนินธุรกิจขององค์กรกับเว็บเทคโนโลยีเพื่อสร้างจุดแข็งให้กับบริษัทฯ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และลดค่าใช้จ่ายในส่วนปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ กลางและเล็ก รวมไปถึงธุรกิจเน็ตเจเนอเรชัน อันหมายถึงบริษัทในโลกยุคใหม่ที่ไม่มีข้อจำกัดทางด้านขนาดของการลงทุนจำนวนพนักงาน หรือแม้แต่ช่องทางในการทำธุรกิจ ที่ทุกแห่งเริ่มต้นในจุดเดียวกันแต่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลกและไม่มีข้อจำกัดของระยะทางอีกต่อไป
การทำธุรกิจบนระบบคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์กอย่างอีคอมเมิร์ซ และอี-บิซิเนส ที่เริ่มแพร่หลาย โดยเกิดจากกระแสการเจริญเติบโตของอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว อัตราความเจริญเติบโตของสังคมบนอินเทอร์เน็ตที่มีมากขึ้นอย่างทวีคูณ ทำให้ธุรกิจทุกประเภทต้องแสวงหาแนวทางการทำธุรกิจใหม่ หรือไม่ก็ต้องหาทางผนวกธุรกิจที่มีอยู่เพื่อให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ โดยนอกจากต้องปรับปรุงระบบธุรกิจที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิผลสูงขึ้นก็ยังต้องพัมนาระบบไอทีในองค์กรควบคู่กันไปด้วย
ดังนั้น อี-คอมพานีต้องมีอินทราเน็ต ที่นำเทคโนโลยีของระบบอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้งานภายในองค์กร โดยปรับให้เข้ากับการดำเนินธุรกิจของแต่ละองค์กรด้วยซอฟต์แวร์
Corporate Portal
อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่าย จะต้องมีซอฟต์แวร์มาจัดระบบ ซอฟต์แวร์ที่ว่านี้จะทำให้เกิดเว็บท่าองค์กร Corparate Portal ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนในองค์กรจะต้องมาพบ มาใช้เพื่อการทำงาน การสื่อสาร การเรียนรู้ และการสันทนาการประเภทหลัก ๆ ของแอปบลิเคชั่นที่ประกอบเป็นเว็บท่าบริษัทมีทั้งส่วนทั่วไป และส่วนเฉพาะกิจกับองค์กรนั้น ซอฟต์แวร์เว็บท่าองค์กรจึงพอสรุปเป็นประเภท ดังนี้
Document Access
– Product Information
– Search Engine
– Policies and Procedures
– Phone Directory
– Newsletters
– Project information
– Official Travel Guide
– Employee Infobases
– Catalogs
– Newswire Clippings
– Software Libraries
– Art Libraries
Application Gateways
– Access to Legacy Systems (HR,Accounting)
– Access to Data Warehouse
– Access to Design Manaagement
– Product Support Databases
– Customer support
– Sales & Marketing Support Centers
– Training and Registration
– Subscription Services
Group Wares
– e-mail
– Conferencing
– Calendar Management
– Electronic meeting
– Workflow Management
– Voice Video Conferencing
– Whiteboard
– Document Sharing
– Chat
Knoledge Application
– Knowledge Management
– Information Mapping
– Decision
– Support
– Knowledge Filtering
– Knowledge Preservation
– e-Learning
– Experience Factory
การกระจาย Informantion
การที่จะทำให้ข้อมูลขององค์กรหาง่ายใช้งานได้สะดวกเป็นวัตถุประสงค์หลักของอินทราเน็ต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องควบคุมเนื้อหาของสารสนเทศในองค์กรให้เหมาะสม ซึ่งรูปแบบการใช้สารสนเทศแบ่งได้เป็น 3 อย่าง คือ สารสนเทศทางการ สารสนเทศกลุ่ม สารสนเทศไม่เป็นทางการ
– สารสนเทศทางการ ได้แก่ สารสนเทศที่เกี่ยวกับกฎระเบียบบริษัทฯ ที่ใช้ในองค์กรประวัติ
ผลงานล่าสุด รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ การบริการต่าง ๆ เป็นต้น
– สารสนเทศกลุ่ม ได้แก่ สารสนเทศที่ใช้ภายในกลุ่ม/แผนก, กลุ่มงานโครงการ เป็นเครื่อง
มือในการติดต่อประสานงานกัน การกระจายความคิด ร่วมมือกันในการทำกิจกรรมหรือการจัดการงานต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานแบบเดิมที่ต้องการส่งเอกสาร ถึงกันไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเอกสารหรือ FAX ให้กันเป็นต้น
– สารสนเทศที่ไม่เป็นทางการ ได้แก่ สารสนเทศที่ใช้ในการบริหารงาน การปฏิบัติงานและ
การใช้สารสนเทศในการพัฒนาเสริมสร้างความรู้ ทักษะในแขนงวิชาต่าง ๆ ให้บังเกิดผลสำเร็จ สามารถนำไปใช้ในการสนับสนุนการทำงานในแต่ละฝ่ายงานต่าง ๆ การที่เราจะมี Information ที่ดีมีประโยชน์นั้นจะมีส่วนในการประสานงานกับงานด้านการเก็บข้อมูลทุกชนิด ทุกประเภท เก็บข้อมูลอย่างมีระเบียบ แบบแผน ซึ่งจะทำให้ได้สารสนเทศนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง Work Process เพื่อลดขั้นตอนงานที่ไม่จำเป็น และให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน จำเป็นต้องปรับปรุงองค์กรและคนในองค์กรด้วย
ประโยชน์
ประโยชน์ และเป้าหมายของระบบเว็บท่าองค์กรทั้งต่อภายในองค์กร และนอกองค์กรมีมากมายสามารถแยกเป็นหัวข้อได้ดังนี้
1. เพื่อสร้างลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทำการตลาดอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้ลูกค้าทำงานได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายเกิดกำไรกับบริษัทฯ โดยใช้ต้นทุนต่ำ
2. กระจายสารสนเทศจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในพื้นที่ที่กว้างมากเท่าที่ต้องการ เช่น
บริษัทฯ อีซูซุ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และมีสาขามากมายในประเทศต่าง ๆ สามารถทำให้มี สารสนเทศเดียวกัน ใช้ร่วมกัน และยังสามารถตัดขั้นตอนงานที่ซ้ำซ้อนลงได้ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การเชื่อมต่อระบบกับธุรกิจอื่น และสามารถสร้างรายได้ในช่องทางใหม่ อีกทั้งยังช่วยผลักดันและเป็นหนทางให้บริษัทเติบโตหรือขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
4. ช่วยให้การประสานงานดีขึ้น การจัดทำ Web จำนวนมากนอกจากช่วยการประสานงานภายในแล้ว หุ้นส่วนอื่น ๆ ก็ได้รับประโยชน์ด้วย ช่วยให้มีการกระจายข่าวสารถึงกันได้อย่างรวดเร็วขึ้น
5. ช่วยในเรื่องการจัดองค์ความรู้ เริ่มตั้งแต่หน่วยงานย่อย ๆ รวมกันเป็นรูปบริษัทฯ บริษัทในเครือหุ้นส่วนสารสนเทศกระจายถึงกัน ส่งผลให้เกิดเป็นการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เกิดเป็นสังคมข้อมูลข่าวสารที่กว้างสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น
6. เป็นช่องทางหาธุรกิจใหม่
อุปสรรคของการทำอินทราเน็ตและเว็บท่าบริษัท
บริษัทฯ หรือองค์กรหลาย ๆ องค์กร ที่นำอินทราเน็ตมาใช้ บางบริษัทก็ประสบความสำเร็จ บางบริษัทก็ประสบกับความล้มเหลว ซึ่งมีสาเหตุต่าง ๆ พอสรุปได้ดังนี้
– ผู้บริหารไม่ได้ให้ความสนใจอย่างจริงจังผู้บริหารไม่ปรับตัว ทำให้พนักงานไม่กระตือรือร้นในการใช้ระบบ
– ข้อมูลที่อยู่บนระบบไม่ทันสมัย ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ
– ปัญหาเครื่องทำงานช้า ผู้ใช้เสียเวลารอข้อมูลนาน
– ข้อมูลไม่น่าสนใจ ใช้ยาก ไม่มีเครื่องช่วยให้เข้าหา Information
ดังนั้นการที่จะให้ ระบบอินทราเน็ตที่พัฒนาขึ้น ประสบผลสำเร็จได้ ผู้บริหารจะต้องให้ความสำคัญด้วย โดยถือเป็นนโยบายหลัก โดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น จัดทำ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือกันด้วยความเต็มใจ สะท้อนให้เกิดความร่วมมือกันด้วยความเต็มใจ สะท้อนให้เกิดประโยชน์กับบริษัทฯ ในภาพรวม โดยได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากผู้บริหาร

เรื่องที่2 วิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ต (Internet)
ในสมัยแรก ๆ อินเตอร์เน็ตได้ถูกใช้ในหมู่นักวิจัยเท่านั้น การใช้งานค่อนข้างยาก ต้องพิมพ์คำสั่งยาว ๆ ไม่มีรูปภาพสวยงามเหมือนในปัจจุบัน บริการที่นิยมใช้กันในสมัยนั้นได้แก่ จดหมายอิเล็กทรอนิคส์ (Email) แหล่งพูดคุย (IRC , USENET) การเข้าใช้เครื่องที่อยู่ระยะไกล (Telnet) การใช้งานฐานข้อมูลระยะไกล (WAIS , Archie) และ Veronica และใช้ในการส่งไฟล์ระหว่างหน่วยงานรัฐ บริษัท และมหาวิทยาลัย (FTP และ Gopher)
อินเตอร์เน็ตยุคใหม่ ที่มีรูปภาพสวยงามและใช้งานง่าย เพิ่งกำเนิดขึ้นมาในปี 2534 นี้เอง บริการแรกที่ถูกเปลี่ยนมาใช้ในแบบนี้ คือ WWW (World Wide Web) ซึ่งได้กลายมาเป็นบริการหลักของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน

ระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย
โครงสร้างของอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย (พ.ย. 2545) ปัจจุบันประกอบด้วย ISP 18 ราย และผู้ให้บริการแบบไม่หวังผลกำไรอีก 4 ราย แต่มีรูปแบบช่องรับ/ส่งสัญญาณที่แตกต่างกันออกไป   ทั้งนี้ ISP ทุกราย (ทั้งเชิงพาณิชย์และไม่หวังผลกำไร) จะต้องเช่าช่องสัญญาณจากจากผู้ให้บริการวงจรสื่อสารอีกต่อหนึ่ง โดยแบ่งเป็น

ช่องสัญญาณการเชื่อมต่อภายในประเทศ - ISP สามารถเลือกเช่าช่องสัญญาณได้โดยเสรี ทั้งจาก ทศท.กสท., TelecomAsia, DataNet โดยวงจรของทุกราย จะเชื่อมต่อกับจุดแลกเปลี่ยนสัญญาณภายในประเทศ เพื่อความรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนข้อมูล นั่นคือ การติดต่อสื่อสารระหว่างคู่สื่อสารในประเทศไทย สามารถทำได้สะดวก ไม่ว่าคู่สื่อสารนั้น จะใช้บริการของ ISP รายใดก็ตาม ทั้งนี้จุดแลกเปลี่ยนในปัจจุบันได้แก่ IIR (Internet Information Research) ของเนคเทคและ NIX (National Internet Exchange) ของ กสท.
ช่องสัญญาณการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ - ISP จะต้องผ่าน กสทเท่านั้น เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันยังไม่ให้อนุญาตให้ทำการส่งข้อมูลเข้า-ออกของไทย โดยปราศจากการควบคุมของ กสทโดย ISP จะเชื่อมสัญญาณเข้ากับ IIG(International Internet Gateway)

บริการต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต

       เครือข่ายอินเตอร์เนตเป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลกในแต่ละเครือข่ายก็จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ ทำหน้า ที่ เป็น ผู้ ให้ บริการ ซึ่ง เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์ (server) หรือ โฮสต์ (host) เชื่อม ต่อ อยู่ เป็น จำนวน มาก ระบบ คอมพิวเตอร์ เหล่า นี้ จะ ให้ บริการ ต่าง ๆ แล้ว แต่ ลักษณะ และ จุด ประสงค์ ที่เจ้า ของ เครือ ข่ายนั้น หรือ เจ้า ของ ระบบ คอมพิวเตอร์ นั้น ตั้ง ขึ้น ในอดีต มัก มี เฉพาะ บริการ เรื่อง ข้อมูล ข่าวสาร และ โปรแกรม ที่ใช้ ใน แวดวง การ ศึกษา วิจัย เป็น หลัก แต่ ปัจจุบัน ก็ ได้ ขยาย เข้า สู่ เรื่อง ของ การ ค้า และ ธุรกิจ แทบ จะ ทุก ด้าน บริการ ต่าง ๆบน อินเตอร์เนต อาจ แบ่ง ได้ เป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ ๆ ดังนี้

1. บริการด้านการสื่อสาร
·      ไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ผู้ใช้ บริการ สามารถ ติด ต่อ รับ-ส่ง ไปรษณีย์ อิเล็ก ทรอนิกส์ หรือ E-mail กับ ผู้ ใช้อินเตอร์ 
เนต ทั่ว โลก กว่า 20 ล้าน คน ได้ โดย ไม่ ต้อง เสียค่า ใช้ จ่าย เพิ่ม เติม และ ยัง สะดวก รวดเร็ว ทันใจ ด้วย

·       




 สนทนาแบบออนไลน์ ผู้ใช้ บริการ สามารถ คุย โต้ตอบ กับ ผู้ใช้ คน อื่น ๆ ใน อินเตอร์ เนต ได้ ในเวลา เดียว กัน (โดย การ พิมพ์ ทาง คีย์ บอร์ดซึ่ง ก็ สนุก และ รวด เร็ว ดี บริการ สนทนา แบบ ออนไลน์ นี้ เรียก ว่า Talk เนื่อง จาก ใช้ โปร แกรม ที่ชื่อ ว่า Talk ติดต่อ กัน หรือ จะ คุย กัน เป็น กลุ่ม หลาย ๆ คน ใน ลักษณะ ของ Chat (Internet Relay Chat หรือ IRC) ก็ได้
Newsgroup เป็น การ ให้ บริการ ใน ลักษณะ ที่แบ่ง เป็น กลุ่ม ย่อย ๆ จำ นวน หลาย พันกลุ่ม เรียกว่า กลุ่ม Newsgroup ทุกๆ วัน จะ มี ผู้ส่ง ข่าว สาร กัน ผ่าน ระบบ ดัง กล่าว โดย แบ่ง แยก ออก ตาม กลุ่ม ที่ สนใจ เช่น กลุ่ม ผู้ สนใจ ศิลปะกลุ่ม ผู้ สนใจ เพลง ร็อค เป็นต้น

·        Telnet ใน กรณี ที่ ผู้ ใช้ ต้องการ ใช้งาน เครื่อง คอมพิวเตอร์ เครื่อง อื่น ซึ่ง ตั้ง อยู่ ไกล ออก ไป ก็ สามารถ ใช้ บริการ Telnet เพื่อ ใช้ งาน เครื่อง ดัง กล่าว ได้ เหมือน กับเรา ไป ใช้ เครื่อง นั้น เอง โดย จำลอง คอมพิวเตอร์ ของ เรา ให้ เป็น เสมือน จอ ภาพ บน เครื่อง คอมพิวเตอร์ นั้น ได้
FTP บริการ โอนย้าย ไฟล์ ข้อมูล ถ้า ผู้ ใช้ต้อง การ โอนย้าย ไฟล์ ข้อมูล หรือ ไฟล์ โปรแกรม ต่าง ๆ ก็ อาจ เรียก ใช้ FTP หรือ File Transfer Protocol ซึ่ง จะช่วย ให้ ผู้ ใช้ ติด ต่อ เข้า สู่ เครื่อง คอมพิวเตอร์ ที่ต้อง การ ใน อินเตอร์เนต และ ดาวน์โหลด หรือ โอนย้าย ไฟล์ ที่ ผู้ ใช้ ต้องการ มา ใช้ ได้

2. บริการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ
1.       อินเตอร์เนต World Wide Web เป็น บริการ ที่ แพร่ หลาย และ ขยาย ตัวเร็ว ที่สุด บน เรา สามารถ ที่ จะ ไป ดู ข้อ มูล ต่าง ๆ ได้ ทั่ว โลก เช่น ข้อ มูล ทาง วิทยาศาสตร์ธุรกิจการ ศึกษา,มหาวิทยาลัยโรงเรียน ต่าง ๆ ภาพยนตร์ ดนตรี และ อื่นๆ อีก มากมาย ซึ่ง ปัจจุบัน มีการ ผนวก รูปภาพ เสียง ภาพ เคลื่อนไหว ที่ เรา เรียกว่า เป็น แบบ มัลติมีเดีย ได้ และ สามารถ เชื่อม โยง ไป ยัง เอกสาร หรือ ข้อมูล อื่นๆ ได้โดยตรง









2.   Gopher เป็น บริการ ค้นหา ข้อมูล แบบ ตาม ลำดับ ขั้น ซึ่ง มี เมนู ให้ ใช้ งาน ได้ สะดวก ลักษณะ การ ใช้งาน จะ คล้าย คลึงกับ ส่วนของ World Wide Web โดย ผู้ ใช้ สามารถ เลือก เข้า ไปดู ตาม หัว ข้อ ที่ มี อยู่ ลึก ลง ไป ได้ อีก แต่ ข้อมูล ส่วน ใหญ่ จะ เป็นใน เชิง วิทยาศาสตร์ และ การ วิจัย

คำศัพท์ที่เกี่ยวกับอินเตอร์เนต


Browser : โปรแกรมที่มีไว้สำหรับชมข่าวสารต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันในระบบ WWW บนอินเตอร์เนต เนื่องจากข้อมูลที่มาจากเครือข่ายนั้น เป็นเพียงไฟล์ภาษา HTML และไฟล์ต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการประมวลผล ฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องผ่าน โปรแกรม เบราเซอร์ นี้เสียก่อน ท่านจึงจะสามารถชม เวบไซต์ต่างๆ บนอินเตอร์เนตได้ ตัวอย่าง ของเวบเบราเซอร์ยอดนิยมก็คือ Internet Explorer , Netscape Communicator , Opera , Neoplanet หรือถ้าเป็นของ ไทย ก็ โปรแกรม ไทยเบราเซอร์ เป็นต้น

Client : คือ คอมพิวเตอร์ ตัวลูก หรือคอมพิวเตอร์ในส่วนของผู้ใช้บริการที่มีการ เชื่อมต่อกับ เครื่องคอมพิวเตอร์อีกตัวหนึ่งที่เรียกกันว่า ตัวแม่ ( Server Host ) หรือ คอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการ ในส่วนของ อินเตอร์เนต คือ คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานใน บ้าน หรือว่า สำนักงาน ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ตัวแม่ ที่ศูนย์ของผู้ให้บริการ อินเตอร์เนต ( ISP )

DNS Domain Name Server ) : โดยมากหมายถึง ชื่อหรือว่ารหัสของ ศูนย์คอมพิวเตอร์ ของผู้ที่ให้บริการอินเตอร์เนต เช่น www.ksc.net เป็นต้น ครับ
Download : คือการโอนย้ายไฟล์มาจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง เช่น การโอนไฟล์หรือว่าข้อมูลมาจาก อินเตอร์เนต หรือว่า จาก คอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นๆ เข้ามาบันทึกเอาไว้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ ของเรา อย่าง เวบไทยแวร์ เรา ทำในเรื่อง ดาวน์โหลด นี้โดยตรงเลยครับผม

E-Mail ( Electronic Mail ) : การส่งข้อความหรือว่าเอกสารต่างๆ ผ่านระบบ หรือว่าเครือข่าย อินเตอร์เนต ในรูปแบบที่คล้ายกับการส่งจดหมาย หรือว่า พัสดุภัณฑ์ โดยที่จะ ประหยัดค่าใช้จ่าย และ ประหยัดเวลา หากต้องส่งไปยังที่ไกลๆ หรือว่ายังต่างประเทศ

Freeware : คำนี้ มันจะเห็นในเวบของเรากันบ่อยนะครับ จริงๆแล้วมันคือ โปรแกรมที่ท่าน ดาวน์โหลด ไปแล้ว ไม่เสียกะตังค์นั่นเองครับ คือว่าโปรแกรมนั้นเขา แจกแล้วแจกเลยครับผม

Homepage : หน้าแรกสุดของเวบไซต์ต่างๆ ประหนึ่งห้องรับแขก หรือว่า ห้องแรกในบ้านหรือเวบไซต์ นั้นๆ กล่าวคือ เมื่อเราเรียกชื่อเวบต่างๆ ขึ้นมาชม หน้าแรกที่คุณพบนั้นคือ โฮมเพจ นั่นเอง ....

Internet : คือ ระบบเครือข่ายที่ใหญ่มากๆ ประกอบไปด้วยข่าวสารข้อมูลต่างๆ ภาพ แสง สี เสียง ฯลฯ เกาะกลุ่มกันอยู่ในเครือข่าย อินเตอร์เนต ซึ่งเชื่อมโยงกันอยู่ทั่วโลก ให้พวกเราค้นคว้ากันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
Server : มีความหมายคล้ายกับ Host เพียงแต่ Server จะหมายถึง คอมพิวเตอร์ ตัวแม่ ที่เชื่อมเครือข่ายกับคอมพิวเตอร์ ตัวลูก ในลักษณะส่วนตัวหรือว่าระบบที่แคบกว่า Host World
World Wide Web หรือเรียกย่อ ๆ ว่า WWW เป็นระบบการสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร ซึ่งจัดได้ว่าเป็นบริการ ที่ได้รับความนิยมที่สุด และการขยายตัว ของบริการชนิดนี้ก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่บริการเรียก ค้นข้อมูล World Wide Web แล้ว ผู้ใช้จะได้รับข่าวสารที่แสดงใน แบบสื่อผสม (Multimedia) ประกอบด้วยรูปภาพเสียงภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอ,ตัวอักษรข้อความ Hypertext ทำให้การ ใช้บริการง่ายขึ้น แต่ส่วนที่ สำคัญอีก 2 ส่วน ในการใช้บริการ World Wide Web ก็คือตัว โปรแกรมที่เรียกว่า browser หรือ Web browser และแหล่งข้อมูลหรือWeb Site ที่จะคอยให้บริการแก่ผู้ใช้
Web Site หรือ Web Server ก็คือ ระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการเรียกค้นข้อมูลแบบหนึ่งในอินเตอร์เนต ถ้าอธิบายง่าย ๆWeb Site ก็คือ สถานที่ที่เก็บข้อมูลซึ่งข้อมูลที่เก็บอยู่ใน Web Site จะอยู่ในรูปของเอกสาร HTMLเป็นข้อมูลแบบ มัลติมิเดียที่มีทั้งตัวอักษร ข้อความ รูปภาพเสียง หรือแม้กระทั่งภาพเคลื่อนไหว แบบวิดีโอซึ่งเราเรียก เอกสารดังกล่าวว่า Home page หรือ Web page
Web Browser ก็คือ โปรแกรมพิเศษที่เราต้องอาศัยมันเพื่อที่จะเรียกค้นข้อมูลขึ้นมา
Hypertext คือ ตัวอักษร ข้อความที่มี การเชื่อมโยง ถึงกันได้ ข้อความที่เป็น Hypertext สังเกตได้จาก ถ้าเราชี้ไปที่ ข้อความ แล้วปรากฎ รูปมือขึ้นมา แสดงว่าเราสามารถที่จะ link เข้าไปดูข้อมูลได้อีก

คำศัพท์ บทที่ 6


1.Telecommunication        การสื่อสารโทรคมนาคม

2.Network                  เครือข่าย
3.Industry                 อุตสาหกรรม                
4.Wireless                 ไร้สาย
5.Watch Phone              นาฬิกาโทรศัพท์มือถือ
6.Second Life              ชีวิตที่สอง
7.Openness                 เปิดกว้าง
8.Global                   โลก
9.Intelligent              ฉลาด
10.Language                ภาษา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น